Wednesday, September 12, 2012

เรื่องย่อ nurarihyon no mago


เรื่องราวของ "นูระ หลานจอมภูต" นั้นจะเกี่ยวข้องกับเหล่าภูตพราย (โยไค)
ของญี่ปุ่นในยุคสมัยปัจจุบันที่ยังคงแฝงเร้นอญุ่ในซอกหลืบของความทันสมัย
ในมหานครโตเกียว ซึ่งเหล่าภูตพรายปีศาจร้ายเหล่านั้น มีทั้งดีและเลว
และยังมีการรวมตัวของเหล่าสมาคมและก๊วนต่างๆ เฉกเช่นเหล่ามนุษย์
วึ่งมีการเข้ากลู่มโดยสมัครใจหรือเกิดจากการโดนปราบและยอมศิโรราบจนกลาย
เป็นกลุ่มอำนาจใหญ่ในการปกครองในแต่ละพื้นที่ และกลุ่มที่ทรงอำนาจและยิ่งใหญ่ที่สุด
ในเขตคันโตก็ คือ "กลุ่มนูระ " ซึ่งปกครองโดย " นูราริเฮียง" จอมอสูรเฒ่าผู้ทรงอำนาจ
แม้จะชราภาพลงไปมากแต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขามจนสามารถควบคุม
ปกครองกลุ่มนูระซึ่งประกอบด้วยอสูรนับร้อยเอาไว้ได้
แต่ปัญหาก็ คือ ทายาทผู้สืบทอดอำนาจของนูราริเฮียงรุ่นที่ 3
กลับเป็นเพียงเด็กน้อยที่มีสายเลือดปีศาจอยู่ 1 ใน 4(คือ ลูกของลูกครึ่งมนุษย์กับภูติอีกที)
ผู้ที่จะต้องกลายเป็นผู้นำ "กลุ่มนูระ" คนใหม่ และ"เป็นภูติได้เฉพาะยามค่ำคืน"
ดังนั้นจึงเป็นจุดอ่อนให้ภูติหัวเก่ากับกลุ่มที่เป็นศัตรูกันรุมทำลายกลุ่มนูระแ้ล้ว
ริคุโอะจะสามารถเป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มนูระได้หรือไม่
เขาต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้างต้องคอยติดตามและคอยเป็นกำลังใจให้เขา...
 

Thursday, September 6, 2012

hyouka Anime เรื่องย่อ

 
เรื่องราวของ โอเรกิ โฮทาโร่ เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ผู้มีสีหน้า
เหนื่อยหน่ายอยู่ตลอดเวลา เขามีความเชื่อในการอนุรักษ์
พลังงานจึงไม่ทำอะไรในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ
 
จนมาวันหนึ่งเขาได้มาเข้าชมรม Koten Bu (โคเท็นบุ) ชมรมวรรณกรรมคลาสสิก ด้วยคำแนะนำของพี่สาว ที่ชมรมแห่งนี้
โอเรกิได้พบกับ จิทันดะ เอรุ สาวสวยผู้เป็นศูนย์รวมของความ
อยากรู้อยากเห็น, ฟุคุเบะ ซาโตชิ เด็กหนุ่มเพื่อนสนิทผู้ร่าเริง
และ อิบาระ มายากะ เด็กสาวร่างเล็กเพื่อนสมัยเรียนประถม
เมื่อคนเหล่านี้มารวมตัวกันเรื่องราวความสนุกสนานจึงได้เกิดขึ้น
 
พวกเขาได้เริ่มต้นที่จะตรวจสอบเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ
33 ปีก่อน ซึ่งเป็นเรื่องราวลึกลับที่ถูกเก็บไว้มาอย่างยาวนานโดยอดีตสมาชิกของชมรมในสมัยก่อน โดยให้ชื่อเรื่องราว
ลึกลับนี้ว่า "เฮียวกะ"
เรื่องราวลึกลับที่ว่าในสมัยก่อนจะเป็นเช่นไร ร่วมค้นหาและ
 
ไขปริศนากับพวกเขาได้ใน hyouka (เฮียวกะ )
 

เรื่องย่อ THE iDOLM@STER


 
. เรื่องย่อ ...
 
The Idol M@ster ดิ ไอดอล มาสเตอร์ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเส้น
ทางสู่การเป็นไอดอลของบรรดาเหล่าสาวๆ ทั้งสวยน่ารัก และ
พกพาความสดใสมาด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งพวกเธอแต่ละคนต้อง
ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆเพื่อจะก้าวขึ้นสู่การเป็นไอดอลชื่อดังให้
ได้ พบกับความน่ารักสดใสของพวกเธอและเส้นทางการ
เป็นไอดอลพวกเธอได้ใน The Idol M@ster
 

เรื่องย่อAccel World and tailer


 
Accel World การ์ตูน แอคเซล เวิล์ด เป็นเรื่องราว
ในโลกแห่งจินตนาการและความเป็นจริงสามารถ
เชื่อมต่อกันได้ง่ายๆผ่านจอ
 วันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง 2046 อาริตะ ฮารุยูกินักเรียน
ชั้น ม.ต้นรูปร่างอ้วนและตัวเตี้ย มักจะโดนเพื่อนๆที่โรงเรียนแกล้งอยู่เสมอๆ 
วันๆเขาเอาแต่เล่นเกมส์
ทางอินเตอร์เน็ต แต่นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้
เขาสามารถสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง 
แต่แล้วจู่ๆ ชีวิตเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะได้ 
พบกับสาวสวยที่มีชื่อว่า คุโรยูคิฮิเมะ เธอได้มอบ 
ซอฟท์แวร์ปริศนาที่มีชื่อว่า Brain Burst (เบรนเบิสต์)
 ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์พิเศษ สำหรับเขามัน
คือการเร่งความคิดให้เร็วขึ้นเป็นพันเท่า โดยทุก
สิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเขาดูจะเชื่องช้าแบบสุดๆ
แถมเขายังสามารถควบคุม Dual Avatar
 (ดูเอลส์ อวตาร) หรือร่างจินตนาการ
 
โดยใช้ประสาทสัมผัสในการต่อสู้ในโลกเสมือนจริงที่เรียกว่า "Accel World"
 และแน่นอนว่าผู้ที่ใช้ซอฟท์
แวร์ Brain Burst (เบรนเบิสต์)จะต้องเข้าร่วมการแข่ง
ขันด้วย โดยแต่ละฝ่ายจะต้องสู้กันเพื่อเก็บแต้ม และเพิ่มระดับเลเวลของตนให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก...
 
แล้วสิ่งที่รอพวกฮารุยูกิและคุโรยูคิฮิเมะอยู่ที่ปลาย
ทางการต่อสู้มันคืออะไรกันแน่??? หาคำตอบได้
ในการ์ตูนเรื่อง Accel World Anime
 

เรื่องย่อ Yuru Yuri


Yuru Yuri Anime เป็นเรื่องราวของ อาคาสะ อาคาริ สาวน้อย
นักเรียนม.ต้น ที่ได้เข้ามาเรียนที่เดียวกันกับเพื่อนสนิทสมัยเด็ก
สองคน คือยุยกับเคียวโกะ แถมยังได้เข้าชมรมเดียวกันอีกด้วย
แต่ชมรมนั้นเป็นชมรมสันทนาการที่วันๆได้แต่ดื่มชาและกินขนม
เมื่อจินัตสึเพื่อนร่วมห้องของอาคาริที่อยากเข้าชมรมชงชาที่ชมรม
สันทนาการใช้ห้องอยู่จึงกลายเป็นว่าเธอเข้าชมรมสันทนาการโดย
ไม่รู้เรื่อง และเรื่องราวความวุ่นวายของ 4 สาว ก็ได้เริ่มต้นแล้ว
พบกับความน่ารักและมุขตลกของพวกเธอได้ใน Yuru Yuri

Japan Festival

เทศกาลปีใหม่ (oshoogatsu)

เฉลิมฉลองการเิริ่มต้นปีใหม่ ช่วงปีใหม่นี้จะฉลองตั้งแต่วันที่ 1-7 มกราคม เรียกว่า "มัทสึ โนะ อุจิ" (Matsu no uchi) แต่ละครอบครัวจะทำความสะอาดตั้งแต่ปลายปีทั้งในและนอกบ้าน เพื่อให้บ้านสะอาดบริสุทธิ์ เตรียมประกอบอาหารที่นิยมรับประทานช่วงปีใหม่ ได้แก่ โมจิ(Mochi) ที่ใส่ในซุปโซนิ(Zouni) และอาหารปีใหม่เรียกว่า "โอะเซจิ เรียวหริ"(Osechi Ryouri) และถือได้ว่าเป็นวันสำคัญที่สุดของชาวญี่ปุ่น ประชาชนจะเข้าร่วมกิจกรรมประเภทต่าง ๆ และพากันอธิษฐานขอความโชคดีในช่วงเวลาของปีที่กำลังจะมาถึง

แสงของดวงอาทิตย์ในวันปีใหม่ (อาซึฮิโนเด้) เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นดินแดนแห่งศาสนาชินโต ซึ่งมีความเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นตัวแทนเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในจักรวาล ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการสวดมนต์อธิษฐานในเช้าวันที่ 1 มกราคม ในขณะที่พระอาทิตย์จะเป็นการนำความโชคดีและความสุขมาให้ตลอกปีใหม่
การไปวัดครั้งแรกของปี (ฮาซึโมเด้) หลังจากนาฬิกาตีในเวลาเที่ยงคืน ถือว่าเป็นวันใหม่ของวันที่ 1 มกราคม ประชาชนจะพากันไปวัด เพื่ออธิษฐานขอให้มีสุขภาพดีและประสพความเจริญรุ่งเรือง
อาหารวันขึ้นปีใหม่ (โอเซจิ เรียวหริ) เป็นอาหารซึ่งประกอบด้วย ปลาต้ม ผสมแป้งทำเป็นก้อน (คามาโบโกะ), กุ้ง และอาหารทะเลประเภทอื่น ๆ และผักต่าง ๆ มักบรรจุในกล่องไม้ลงรักเป็นชิ้น ๆ ชนิดพิเศษ และชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทาน “โซหนิ” ซึ่งเป็นซุปใส่ขนมแป้ง หัวไชเท้า และผักอื่น ๆ เชื่อว่า จะช่วยให้อายุยืนยาวและสุขภาพดี
เงินในรูปของขวัญ (โอโทชิดามะ) ในช่วงปีใหม่ เด็ก ๆ จะได้รับจากบิดา มารดา และญาติ 

 วันเด็กผู้หญิง (Hinamatsuri)

วันเด็กผู้หญิง (Hinamatsuri ひな祭り ) ตรงกับวันที่ 3 มีนาคมของทุกปี "เทศกาลฮินะ" เป็นเทศกาลฉลองของเด็กผู้หญิง หรือบางท่านอาจ เรียกว่า "เทศกาลลูกท้อ" (Momo no sekku) เป็นการอธิษฐานของพรให้เด็กผู้หญิงเติบโตมีสุขภาพที่แข็งแรงและได้มีคู้ครอง ที่ดี โดยประดับตุ๊กตาฺฮินะ (Hina-ningyou) เรียงไว้บนหิ้ง 7 ชั้น นิยมเสริฟสาเกขาว (Shirozake) ซึ่งทำจากการเหล้ากับข้าวบาเลย์ และทานขนมโมจิ (Hishimochi) หรือขนมแป้งรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน กันในเทศกาลนี้ 

 วันเด็ก (Kodomo no hi 子どもの日)

 วันเด็ก หรือ เทศกาลของเด็กผู้ชาย ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่ออธิษฐานของความสุข มีสุขภาพดี และความสำเร็จให้กับเด็กผู้ชาย ในวันนี้ ครอบครัวบ้านไหนที่มีบุตรชายจะนิยมประดับบ้านกันด้วยตุ๊กตานักรบซามุไร ซึ่งสวมเสื้อเกราะ และใส่หมวกเกราะ เพื่อเป็นการอวยพรให้เด็กผู้ชายมีความแข็งแรงและสง่างามเหมือนนักรบ รวมถึงประดับด้วยธงปลาคาร์พ (Koi-nobori)“โคอิโนโบหริ” ซึ่งทำจากกระดาษหรือผ้าขนาด 1-2 เมตร นำไปแขวนตกระเบียง ปลาคาร์พสีดำหมายถึงพ่อ “ฮิโกอิ” สีแดงหมายถึงแม่ ตามด้วยปลาคาร์พเล็กๆ ขนาดลดหลั่นกันไปตามจำนวนลูกชายในบ้านซึ่งจะมีทั้งสีฟ้าและสีเขียว ในประเทศญี่ปุ่น ปลาคาร์ฟ เป็นปลาทีมีชื่อเสียงในลักษณะที่มีความพยายามในการมีชีวิตอยู่ และสามารถว่ายน้ำทวนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้ การตกแต่งจะมี “มาโกอิ” และ “ฟูคินากาชิ” หมายถึง กระแสน้ำ

วันสิ้นปี(Omisoka) 

วันบรรลุนิติภาวะ (Seijin No Hi 成人の日 ) แต่เดิมคือวันที่ 15 มกราคมของทุกปี และได้เปลี่ยนมาเป็นทุกวันจันทร์ที่สองของทุกปี ตั้งแต่ปีค.ศ. 2000 จะเป็นวันฉลองการบรรลุนิติภาวะของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่อายุครบ 20 ปี ในปีนั้น โดยจะมีการจัดพิธีฉลองขึ้นที่อำเภอของเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่ และสาวๆ จะแต่งชุดกิโมโน เรียกว่า "Seijin Shiki 成人式" เป็นวันที่หนุ่มสาวญี่ปุ่นพึงระลึกถึงการเิตบโต ซึ่งจะต้องมีความรับผิดชอบต่างๆ และรู้จักวางแผนชีวิตของตนเอง







เทศกาลทานาบาตะ (Tanabata No Hi 七夕の日)

ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ซึ่งเป็นวันที่มีความเชื่อเกี่ยวกับตำนานของ ดวงดาว 2 ดวง เล่าแบบสั้นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าในอดีตมีหญิงทอผ้านามว่า “โอริฮิเมะ” พบรักกับ "ฮิโกโบชิ" คนเลี่ยงวัวจนละเลยการทอผ้าให้กับเทพผู้ครองสวรรค์ จึงถูกลงโทษให้พบกันได้เพียงปีละหนึ่งครั้งในวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี ที่ทางช้างเผือกซึ่งเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า "อะมะโนะ คะวะ" โดยจะต้องมีฝูงนกกางเขนมาต่อเชื่อมเป็นสะพานให้ข้ามไปพบกันมิฉะนั้นจะต้องรอ พบกันอีกทีในปีถัดไปจึงเกิดเป็นตำนานรักของดาวหญิงทอผ้า (Orihime織女星) และดาวคนเลี้ยงวัว (Kengyuusei牽牛星) เชื่อว่าเป็นตำนานที่ญี่ปุ่นนำมาจากจีนสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-906) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ชาวญี่ปุ่นเร่มฉลองเทศกาลทานาบาตะโดยเขียนกลอนนำไปแขวนบนต้นไผ่ซึ่งถือว่า เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในอดีตและจะมีการตัดกระดาษเป็นรูปกิโมโนหรือรูปต่างๆ ด้วยกระดาษ 5 สีที่เรียกว่า (Tanzaku 短冊) แล้วนำต้นไผ่ไปลอยน้ำ ปัจจุบันนิยมเขียนคำอธิษฐานบนกระดาษและนำไปแขวนที่ต้นไผ่เกี่ยวกับการขอพร เรื่องการเรียน สุขภาพ ความรัก ฯลฯ และจะมีแห่การเฉลิมฉลองพาเหรดต่างๆกันตามพื้นเมืองซึ่งได้รับความนิยมจากนัก ท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติเป็นจำนวนมากอาทิ จังหวัดเซ็นได คานากาวะ เป็นต้น











     

เรื่องย่อ TARI TARI and Preview

 
 
เรื่องราวของเด็กสาวมัธยมปลายที่กำลังขึ้นชั้นม.6 ซึ่งเป็นปีสุด
ท้ายของชีวิตนักเรียน และเป็นวัยที่ยังเร็วเกินไปที่จะเรียกว่าผู้
ใหญ่ แต่พวกเขากลับคิดว่าตัวเองนั้นไม่ใช่เด็กๆแล้วเหมือนกัน
ซาคาอิ วาคานะ เริ่มออกห่างจากดนตรีที่เธอรัก หลังจากสูญ
เสียคุณแม่ไป มิยาโมโตะ โคนัตสึ สาวบวกคิดที่รักการร้อง
เพลงและใช้เวลาหลังเลิกเรียนที่ชมรมดนตรี โอคิตะ ซาวะ
สาวสุดแกร่งแห่งชมรมยิงธนู ที่ฝันอยากจะเป็นนักขี่ม้า
 
แต่ดนตรีได้เชื่อม วาคานะ,โคนัตสึ,ซาวะ และคนอื่นๆให้
มารวมกันในฤดูร้อนช่วงสุดท้ายในโรงเรียนมัธยมปลาย...
 
เรื่องราวของพวกเธอ และดนตรีจะมีส่วนในการดำเนินเรื่อง
อย่างไร โปรดติดตามได้ใน Tari Tari anime

เรื่องย่อ sword art online and tailer


 
ในปี 2022 ระบบโลกเสมือนจริงVirtual reality ได้ให้กำเนิดระบบเกมการเล่นด้วยคลื่นสมอง Massive Multiplayer Online Role-Playing Game (VRMMORPG) Sword Art Online (SAO) โดยใช้ Nerve-gear ได้เริ่มให้บริการหลังจากทดลองเล่นในวันที่ 22 พฤจิกายน 2022 เมือเข้าเล่นเกมไปได้ 6 ชั่วโมงหลังเปิดบริการ Kazuto Kirigaya พร้อมผู้เล่นอีก 10,000 คน ได้ติดอยู่ในเกมไม่สามารถออกจากเกมได้ และหากถอดNerve-gearออกก็จะปล่อยคลื่นไมโครเวฟแรงสูงออกมาทำลายสมองโดยตรง โดยผู้สร้างเกมส์ได้มอบ Item ให้ทำให้ปรากรฎร่างเสมือนแสดงรูปร่างที่แท้จริงแบบเดียวกับในโลกจริงออกมา และบอกว่าต้องขึ้นยัง หอคอย ชั้นที่ 100 เพื่อจบเกมส์ วิธีการผ่านแต่ละชั้นต้องทำลายบอสสูงสุดในแต่ละขั้น เพื่อเปิดประตู ขึ้นไปยังชั้นต่อไป ต้องผ่านจากชั้นแรกไปจนถึงชั้นที่ 100 เกมจะจบลงและระบบจะปิดตัว โดยการให้ทุกคนในเกมออกจากเกมโดยปลอดภัย กลับไปที่โลกความจริง หากไม่ทำตาม พยายามถอดNerve-gearออกจากหัวระบบจะทำลายสมองของผู้สวมทันที...

Tuesday, September 4, 2012

Anime Fall 2012

http://animexplus.com/wp-content/uploads/2012/08/neregate.com-Fall-2012-Anime-v1.png


http://animexplus.com/wp-content/uploads/2012/08/neregate.com-Fall-2012-Anime-v1.png

Preview doramon movie 2012


Doraemon

 
Doraemon is sent back in time by a young boy named Sewashi Nobi to improve the circumstances of his great grandfather, Nobita so that his descendants may enjoy a better future. In the original time-line, Nobita experienced nothing but misery and misfortune manifested in the form of poor marks and grades, physical disasters, and bullying throughout his life. This culminates in the burning down of a future business he set up which leaves his family line beset with financial problems. In order to alter history and better the Nobi family's fortunes, Sewashi sent him a robot called Doraemon.
Doraemon has a pocket from which he produces many gadgets, medicines, and tools from the future. The pocket is called yōjigen-pocket (lit. fourth-dimensional pocket). Some of the gadgets (dōgu) are based on real Japanese household devices with fanciful twists, but most are completely science fiction (although some may be based on folklore or religious stories). Thousands of dōgu have been featured in Doraemon. The number of dōgu has been approximated at 4,500. It is this constant variety which makes Doraemon popular even among adult readers/viewers. In the series, the availability of dōgu depends sometimes on the money Doraemon has available, and he often says some dōgu are expensive in the future. The more famous ones include the "bamboo-copter" (very similar to the ones that appears on the older series of Beany and Cecil), a small head accessory that allows flight; the "Anywhere Door", a door that opens up to any place the user wishes; and the "Time Machine". Some of the recurring dōgu appear also in Fujiko F. Fujio's other works such as 21-emon, Kaibutsu-kun, Kiteretsu Daihyakka, Mikio to Mikio or Pāman.
Although he can hear perfectly well, Doraemon has no ears: his robotic ears were eaten by some robotic mice, giving him a series-long phobia of the creatures.
The only main female characters is Shizuka Minamoto, who serves as a friendly interest for Nobita, and Hazuki Izekawa[who?] serving as a friendly interest for Suneo, a cunning, gloating, spoilt, wealthy brat. Shizuka is intelligent and is Nobita's good friend. Nobita's main human friends and/or rivals include Takeshi (nicknamed 'Gian', from the English word giant), a consummate bully, and Suneo. There are many recurring supporting characters, such as Dekisugi, Nobita's parents, Gian's mother, his school teacher, his descendants from the future, and Doraemon's little sister, Dorami.
The stories are formulaic, usually focused on the everyday struggles of fifth grader Nobita, the protagonist of the story. In a typical chapter, Nobita comes home crying about a problem he faces in school and/or the local neighborhood. After hearing him out, Doraemon often offers helpful advice to his problem(s), but that's never enough for Nobita, who is consistently looking for the "quick, easy" way out (which offers insight to the viewers as to why Nobita's life turned out the way it did). Finally, after Nobita's pleading and/or goading, Doraemon produces a futuristic gadget out of his aforementioned pouch to help Nobita fix his problem, enact revenge, or flaunt to his friends.
Unfortunately when in possession of the gadget, Nobita usually gets into deeper trouble than before, despite Doraemon's best intentions and warnings. Sometimes, Nobita's friends (usually Suneo or Gian) steal Doraemon's gadgets and end up misusing them. However, by the end of the story, there is usually retribution to the characters who end up misusing them, and a moral is taught.

anime in japan

For many people around the world, the first word that comes to mind when talking about Japanese pop culture is anime. Like manga, it has entered the youth vocabulary and needs no translation. Perhaps the main reasons it is such a big industry in Japan are that it has always been taken seriously and it has the diversity to appeal to all age levels, as has the manga format that gave birth to it and continues to seed it with new ideas. Popular manga sell in the tens of millions, so the fan base for any new manga-based anime is huge and loyal. Commercialism is never too far away, of course, and many popular kid's anime series have been developed to further the interests of toy and game makers rather than artistic integrity.  
Tesuka osamu(1928-89) is considered the father of anime in Japan. Like his U.S. counterpart Walt Disney, he was a renowned mangaka (cartoonist). He adapted one of his own manga to bring anime to the TV screen for the first time in 1963 with the legendary Tetsuwan Atomu (Mighty Atom), better known outside Japan as Astro Boy. The boy robot may have been cute, but the robot "mecha" genre that Tezuka and his disciples developed in the 1970s were far less so. The huge popularity enjoyed by series such as Gundam in the 80s still continues today and has spawned many other successes. Perhaps the most notable was 1995's ground-breaking Neon Genesis Evangelion (still image above) and its three movie spin-offs. That series started out as a post-apocalyptic mecha action series but later branched into the psychoanalysis of its characters. This is said to have been based on director Anno Hideaki's personal battles with depression and psychotherapy. Such is the depth and seriousness that underpin many anime productions.
 
There are as many anime genres as there are types of live action movies, varying from science fiction to melodrama to porno. There's shojo (like Sailor Moon) for girls, shonen (Dragon Ball Z, pic) for boys, kodomo (Anpanman or Doraemon) for younger kids. And then there's ones focused on baseball (Kyojin no Hoshi), soccer or just about any popular sport, street racing (Initial D), historical themes (Hotaru no Haka)...you name it.
Because of the language barrier, it was long thought that Japanese anime feature movies would probably never achieve much commercial success outside their homeland. But among those in the know - and following the 2002 Academy Awards that meant just about everybody - they have recently become so successful and popular that a special category, 'Japanimation', has been created for them. Usually people think of cult classics like Akira or Ghost in the Shell, both of which live up to Japan's image as a futuristic techno-world, or the elaborate fantasy worlds created by Studio Ghibli.
 
Ghibli, Japan's answer to Disney, is also home to its most famous anime director, Miyazaki Hayao. The studio has turned out a string of hit fantasy movies during the last few decades, such as My Neighbor Totoro, Princess Mononoke, Oscar-winner and the most successful Japanese movie of all time, Spirited Away (Sen to Chihiro no Kamikakushi, 2001), and Howl's Moving Castle. Like the recent Hollywood animated features from Pixar or Dreamworks, these movies can now enlist the voice talents of major stars, giving them yet more marketability. The success of the Ghibli productions, supported by distribution through Disney, has given a real impetus to the industry and helped raise the profile of other recent big productions like Innocence and Steamboy. Despite all this success, the vast majority of anime movies never make it beyond Asia or last beyond the life of their marketing campaign even at home.
Hit TV anime series continue to be a popular source for movies. But these are almost always just extended versions of the TV shows and have little appeal beyond their captive audience. Many, such as Pocket Monsters, Anpanman or Crayon Shinchan, are also aimed very much at younger kids. They draw fans to theaters - especially during summer vacation - but make most of their money from the rental market and merchandising.